เรื่องเล่าบนแท็กซี่
พี่ชอบฟังเรื่องผีหรอ?... ถ้าหนูเล่าพี่จะเชื่อมั้ย...
ผู้เข้าชมรวม
157
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
“พี่ไปสมุทรปราการมั้ยคะ” สิ้นเสียงคำถามจากฉันที่ใบหน้าเศร้าหมองหลังจากร้องไห้จนตาบวมเพราะทะเลาะกับใครบางคนมา "ไปครับ" พอพี่แท็กซี่หนุ่มตอบกลับ ฉันเปิดประตูพร้อมก้าวขาเข้าไปนั่งในรถเบาะหลังอย่างเงียบๆ
“ลูกค้าลงตรงไหนครับ” “ลงช่วง กม.23ค่ะ เดียวใกล้ถึงบอกอีกทีนะคะ” ฉันตอบกลับด้วยน้ำเสียงเย็นชา บรรยากาศในรถดูอึมครึมท้องฟ้ามืดมิดเหลือเกิน ก็ใช่สินี่มันห้าทุ่มแล้วนี่ ชวนทะเลาะซะดึกดื่น พอเค้าไม่ง้อก็ต้องหารถกลับเองอีก สักพักเสียงวิทยุดังขึ้นมาจากในรถพี่แท็กซี่ อืมม…มันคงจะเงียบเกินไปแแหละ มีเสียงแทรกในรถหน่อยก็ดี “ขอต้อนรับเข้าสู่ เดอะ โกส เรดิโอ………” หืมมมม
เรื่องผีหรอ… เพลงมีตั้งเยอะแยะไม่เปิดล่ะพี่ ทำไมถึงรู้สึกตื่นตัวขึ้นมาทันทีนะ อาการเศร้ามันหายไปแต่ใจกลับอยากเล่าเรื่องบางเรื่องออกมาแทน แต่…เราจะเบลกพี่เค้าดีมั้ยนะ เราไม่อยากฟังเรื่องผีในวิทยุเลยอ่ะ เรื่องที่กำลังฟังอยู่มันดูน่าเบื่อจัง ฉันฟังมาเยอะละ ฉันว่าฉันมีเรื่องที่สนุกกว่า “พี่คะ…พี่ชอบฟังเรื่องผีหรอ”แันแทรกถามขึ้นมา
“ครับ…ลูกค้าไม่ชอบรึป่าว เดียวผมปิดให้ พอดีผมชอบฟังเวลาขับรถรอรับลูกค้า มันทำให้หายง่วงดี” “หนูก็เคยเจอเรื่องแบบนี้นะคะ พี่อยากฟังมั้ย” พี่แท็กซี่รีบหรี่เสียงวิทยุลงทันที “จริงหรอ เล่าให้พี่ฟังหน่อย มันเป็นยังงัย”
“ตอนเด็กๆ พี่เคยเจอผีป่าว” “ไม่เคยนะ ส่วนใหญ่จะเคยฟังแต่คนอื่นเล่าน่ะ”พี่แท็กซี่ตอบ
"หนูเคยเจอตอน 8 ขวบนะ เป็นการเจอผีครั้งแรกเลยก็ว่าได้ จำได้เลย วันนั้นเป็นเช้าวันอาทิตย์ รู้สึกว่าวันนั้นจะหลับสบายมากกกก จู่ๆก็มีเสียงใครบางคนเรียกมาแว่วๆ “เบลลลล” “เบลลลล….ตื่นนน” “ใช่เสียงคนในบ้านปลุกเรารึป่าว”พี่แท็กซี่แทรกถาม
“เสียงแม่แหละพี่ ในใจหนูก็หงุดหงิดแหละ จะปลุกทำไมก็ไม่รู้วันหยุดแท้ๆ ”ฉันบอกพี่เค้าไปให้รู้สึกถึงอารมณ์ที่หงุดหงิด ณ ตอนนั้น “เบลลลล”ครั้งที่สามแล้วนะที่เรียกหนู มันทำให้หนูรู้สึกรำคาญมาก เลยตะโกนออกไป “เออ!!!!!แม่!!! ตื่นแล้วววว” หนูขานตอบออกไปทั้งๆที่ยังไม่ทันจะลืมตาเลย”
“หืม!!! ไม่ลืมตาหรอ เราเคยได้ยินคำพูดที่คนเฒ่าคนแก่บอกบ้างป่าวอ่ะ ที่เค้าว่ากันว่าถ้ามีคนเรียกแต่ยังไม่เห็นตัวห้ามตอบอ่ะ” พี่แท็กซี่ทักฉันให้เห็นถึงสิ่งผิดปกติในเหตการณ์นั้น
“ก็ตอนนั้นหนูแค่ 8 ขวบอ่ะพี่ ไม่มีคนบอกหรอก ” “เออ พี่ก็ลืมไป 555”พี่แท็กซี่หัวเราะกลบเกลื่อน
“เปลือกตาหนูค่อยๆเริ่มเปิดขึ้นช้าๆ ค่ะพี่ ผ่านเยื่อตาบางๆ ขี้ตานั่นแหละ 555 สิ่งแรกที่มองเห็นเพดานห้องพอกวาดสายตาลงปลายเท้าตัวเอง สิ่งที่อยู่ถัดจากปลายเท้าไปอีกไม่ถึงไม้บรรทัด นั่นคือ…”
“ หัวคนค่ะพี่” “ฮะ!!!”พี่แท็กซี่อุทานออกมา พร้อมถามต่อ “หัวใครหรอครับ ออกมาจากตรงไหน แล้วหน้าตาเป็นยังงัยอ่ะน้อง” ยิงคำถามรัวๆเลยจ้า
“คำถามแรกในหัวเด็ก8ขวบอย่างหนูในตอนนั้นนะพี่ คือ… หัวคน…ใช่มั้ย? ใช่รึป่าว? นั่นหัวคนหรอ หนูขยี้ตากะว่าจะให้เค้าหายไป มันไม่หายไปอ่ะพี่ หนูดูลักษณะหน้าตาเค้าเป็นผู้ชายนะพี่ ผมหยิกยาว กำลังสะแหยะยิ้มกว้างแบบหลอนๆอ่ะ เหมือนจะเป็นมิตรแต่ก็แฝงด้วยความน่ากลัวปนอยู่ อารมณ์เหมือนกำลังแกล้งให้เรากลัวอ่ะค่ะพี่ ตาหูจมูกปากมีครบหมดเลย” “แล้ว….ตัวเขาล่ะ ตัวเขาอยู่ไหน ไม่มีตัวหรอ”แท็กซี่ถามต่อ “ไม่มีค่ะพี่ หนูพยายามมองดูแล้ว เค้ามีแแต่หัวค่ะ แล้วเค้าก็พูดประโยคนึงขึ้นมาอ่ะพี่ หนูนี่ขนหัวตั้งเลยตอนนั้น”
“นี่ถ้าเป็นพี่นะ พี่วิ่งออกจากที่นอนไปแล้ว555 แล้วเค้าว่างัยอ่ะครับ” พี่แท็กซี่ถามฉันต่อด้วยความสงสัย
“ “เบลลล ตื่นนน” มันเปล่งออกมาจากปากเขาพร้อมกับสะแหยะยิ้มหลอนๆอ่ะพี่ เสียงนี้ นี่เสียงของเขาเอง ไม่ใช่เสียงแม่หนู พอได้ยินแค่นั้นแหละ หนูค่อยๆเก็บปลายเท้าเข้ามาหาตัว ตายังคงจ้องมองหัวนั้นอยู่ไม่ยอมละสายตา กลัวมันจะลอยเข้ามาใกล้เรา ความคิดเด็กอ่ะพี่ ไม่รู้จะทำไงดี วิ่งออกไปก็กลัวหัวมันลอยมากัดขา555 หนูเลยตะโกนเรียกแม่ที่กำลังทำกับข้าวอยู่ในครัว โดยที่สายตาก็ยังจับจ้องหัวคนที่อยู่ปลายเท้าอย่างไม่กระพิบตาเลยนะคะ คิดในใจถ้ากูกระพิบตา มันต้องหายไปแน่เลย จ้องมันไว้ สักพักนึงหนูได้ยินเป็นเสียงแม่หนูตอบกลับมา“อะไร!!!” เสียงตอบจากในครัวดังออกมาหลังจากเรียกไปถึง 2ครั้ง หนูพูดตามประสาเด็กอ่ะค่ะพี่ “มาดูอันนี้หน่อยแม่!!!” …เงียบ….ไม่ได้ยินเสียงใครเดินมาเลยพี่ เหมือนเค้าไม่ได้ยินเสียงหนูอ่ะค่ะ”
"หนูเลยตัดสินใจเรียกแม่ครั้งสุดท้าย พร้อมกับเสียงกรี๊ดและร้องไห้ จนแม่ต้องรีบวิ่งเข้ามาเปิดประตูห้องนอน “เป็นไร!!!” อารมณ์แม่ประมานว่า มันจะอะไรกันนักกันหนาอ่ะพี่เค้าก็กำลังวุ่นอยู่ในครัวอ่ะเนาะ พอแม่หนูมายืนตรงหน้าประตู เพียงแค่หนูละสายตาไม่ถึงสองวินาที เพื่อหันไปพร้อมบอกแม่ว่า“แม่มาดูนี่มันมีแต่หัว มันอยู่ปลายเท้า”สิ้นสุดเสียงหนูหันกลับมาที่ปลายเท้าอีกครั้ง หัวนั้นก็หายไปเลยค่ะ แม่หนูก็ถาม “ไหน หัวใคร หัวอะไร” แม่ถามหนูด้วยความมึนงง ตัวหนูเองที่ไม่สามารถตอบคำถามนั้นได้ เพราะตอนนี้หัวนั้นได้หายไปจากปลายเท้าไปแล้ว หนูได้แต่เรียกให้แม่เดินเข้ามารับหนูและพาออกไปจากที่นอน หลังจากวันนั้นหนูก็ไม่กล้านอนในห้องนอนห้องนั้นคนเดียวอีกเลยพี่ ใครลุกหนูลูก ใครตื่นก่อนต้องปลุกหนูตื่นด้วยตลอด 555 ”
“เรื่องที่เราเล่าให้พี่ฟังมันสนุกดีนะ แต่มันใช่เรื่องจริงหรอ เราอายุแค่ 8 ขวบ จำได้ขนาดเลยหรอครับ” พี่แท็กซี่ถามปนสงสัย “เรื่องจริงค่ะพี่ หนูจำได้ดีเลย เพราะมันเป็นครั้งแรกที่หนูเจอ หนูจำรายละเอียดได้หมด แล้วก็ยังมีเรื่องอื่นที่เกิดขึ้นกับหนูมาเรื่อยๆนะคะ หนักสุดก็คงเป็นโดนทำของใส่อ่ะค่ะ รอบนั้นหนูเกือบตาย พี่ๆ เดี่ยวพี่ชิดซ้ายทางคู่ขนานหน้านี่นะคะ ถ้าไม่ออกตรงนี่เดี่ยวมันเลย”ฉันรีบบอกพี่แท็กซี่ให้มองหาทางออกคู่ขนาน นี่ถ้าเลยไปฉันต้องจ่ายค่าแท็กซี่เพิ่มแน่ “ออ ครับ พูดซะพี่ลืมดูทางเลย 555 เอ้อ! ที่เราบอกว่าโดนทำของใส่อ่ะ เรื่องมันเป็นยังงัยหรอ เล่าให้พี่ฟังหน่อยสิ พี่ก็เคยได้ยินมานะ แต่ก้ไม่เคยเจอกับตัวหรอก"
“ดีแล้วพี่ อย่าอยากมีประสบการณ์อะไรแบบนี้เลย มันทรมาน พี่ค่ะ! เดี่ยวพี่จอดชิดซ้ายหน้าเซเว่นข้างหน้านี้นะ ถึงแล้วค่ะ” “อ้าว ถึงแล้วหรอ เลยไม่ได้ฟังต่อเลย เสียดาย เรื่องของเราอ่ะเอาไปเล่าในรายการผีได้เลยนะสนุกดีอ่ะ” พี่แทกซี่กล่าว “อ๋อ…ค่ะพี่ แต่หนูไม่กล้าโทรไปหรอกกลัวเล่าไม่สนุกเหมือนคนอื่นเขาค่ะ 555 ค่าแท็กซี่เท่าไหร่คะ”หลังจากพูดจบฉันก็เปิดกระเป๋าตังออกมาเตรียมจ่ายค่าแท็กซี่"310บาทครับ พี่เอาแค่ 300ถ้วนละกันนะ “พี่แท็กซี่กล่าว “อ่ะ นี่ค่ะ ขอบคุณนะคะพี่” ฉันจ่ายเงินพร้อมกับเปิดประตูรถ แล้วเดินกลับบ้านอย่างสบายใจ เอ๊ะ!!! ฉันลืมอะไรไปรึป่าว …อ้อ!! ลืมไปเลยว่าเพิ่งทะเลาะกับแฟนมา 55555
พอ…ขี้เกียจพิมพ์
สาระไม่มี
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ผลงานอื่นๆ ของ สาระไม่มี ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ สาระไม่มี
ความคิดเห็น